วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

โกจิเบอร์รี่

                   


ตลอดช่วงหลายปีมานี้ "โกจิเบอร์รี่" เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้น เมื่อถูกนำมาใช้เป็นส่วน ผสมหลักในอาหารเสริม และเครื่องดื่มประเภทฟังก์ชั่นนอล ดริงก์ อันที่จริงแล้ว ผลไม้มหัศจรรย์ชนิดนี้ ถูกค้นพบมาตั้งแต่เมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว โดยนักสมุนไพรชาวหิมาลายัน ต่อมาได้เผยแพร่ไปสู่นักปรุงยา ชาวจีน ทิเบต และอินเดีย

มาถึงยุคปัจจุบัน ผลจากการค้นคว้าและวิจัยของ "ดร.เอิร์น เมนเดลล์" พบว่า ผลโกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยอุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ในปริมาณมากเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ลูกพรุน มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากเป็นอันดับสอง ไม่เพียงเท่านี้ ผลโกจิเบอร์รี่แต่ละลูกยังประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด ธาตุอาหาร 21 ชนิด และมีโปรตีนมากกว่าโฮลวีท แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าผลส้ม ขณะที่โรส ฮิปส์ หรือลูกกุหลาบ ก็เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงในระดับน่าทึ่ง และมักนิยมนำมาเป็นส่วนผสมสำคัญในเครื่องดื่มหลายประเภทแม้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชีย แต่ "โกจิเบอร์รี่" ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยในอเมริกาได้ทำการศึกษาคุณค่าด้านสารอาหารและประสิทธิภาพในการต่อต้าน อนุมูลอิสระต่อเนื่อง จนค้นพบว่า ผลโกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในโลก โดยผลไม้ชนิดนี้สามารถชะลอความแก่ ควบคุมน้ำตาลในเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างการทำงานของหัวใจ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วย ความมหัศจรรย์ของผลโกจิเบอร์รี่ ทำให้ระยะหลังได้มีการคิดค้นหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ภูมิคุ้มกันอย่างเป็นธรรมชาติ โดย "ดร.เจมส์ ดุ๊ก" นักชาติพันธุ์วิทยา พบว่า ผลโกจิเบอร์รี่ทำหน้าที่รักษาสมดุลของภูมิคุ้มกันได้ดี ขณะเดียวกัน ก็ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเซลล์เม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ ผลโกจิเบอร์รี่ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ว่า เป็นสุดยอดผลไม้แห่งปี และเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในหมู่ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น มาดอนน่า, แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์ และกวิเน็ต พัทโธรว์ จนได้รับการขนานนามให้เป็น "แฮปปี้ เบอร์รี่"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น